บริษัท กรีนโปร เคเอสพี คอนซัลติ้ง จำกัด
ที่อยู่ 43 ถ. สาทรใต้ แขวง ยานนาวา เขต สาทร กรุงเทพมหานคร 10120
มือถือ: 094 864 9799
มือถือ: 084 360 4656
LINE ID: @greenproksp
E-mail: info.th@greenproksp.com
จดทะเบียนบริษัทภูเก็ต
ข้อมูลที่ใช้ในการจดทะเบียนบริษัทภูเก็ต – เมื่อผู้ประกอบการวางแผนที่จะทำธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลที่ภูเก็ต จำเป็นต้องทราบข้อมูลและเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนบริษัท
จดทะเบียนบริษัท
จดทะเบียนบริษัท คือ การจัดตั้งบริษัทจำกัดโดยมีบุคคลตั้งแต่ 3 ท่านขึ้นไป โดยมีวัตถุประสงค์ในการทำธุรกิจในรูปแบบเดียวกันและหวังผลกำไรที่ได้จากธุรกิจที่ก่อตั้งขึ้น เงินที่นำมาลงในกิจการจะแบ่งออกเป็นสัดส่วนเท่ากับเงินที่ได้ลงมา รายละเอียดการจดบริษัทนั้นมีขั้นตอนต่างๆ มากมาย บทความนี้จะอธิบายเจาะลึกถึงขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัท และรายละเอียดที่น่าสนใจ ครบจบในบทความเดียว
1. ชื่อบริษัท
ชื่อของบริษัท – ผู้ประกอบการต้องคิดชื่อของบริษัทที่จะจดทะเบียนโดยชื่อบริษัทต้องมีชื่อทั้งภาษาไทย และอังกฤษ หลังจากนั้นทำการจองชื่อกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในระบบออนไลน์ โดยถ้าหากว่าชื่อที่ผู้ประกอบการส่งมาให้จองนั้นไปซ้ำกับชื่อของบริษัทอื่นที่จดทะเบียนบริษัทไปแล้ว ทางระบบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็จะไม่อนุมัติ (ต้องคิดชื่อขึ้นมาใหม่) อาจคิดชื่อสำรองไว้สัก 2-3 ชื่อก็ได้
2. ที่ตั้งบริษัท
ในการจดทะเบียนบริษัทภูเก็ตนั้น ต้องมีสถานที่ตั้งเพื่อจดทะเบียนกับทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริษัทที่จะจดทะเบียนอาจจะมีสถานที่ตั้งที่เดียวที่เป็นสำนักงานใหญ่ หรืออาจมีสำนักงานสาขาด้วยก็ได้ ซึ่งถ้ามีสำนักงานสาขาก็ต้องแจ้งกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าตอนจดทะเบียนบริษัท โดยในการดำเนินการจดทะเบียนบริษัท ต้องมีสำเนาทะเบียนบ้านที่ตั้งกิจการ ทั้งสำนักงานใหญ่ สำนักงานสาขา
3. อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ และเว็บไซต์
ในการจดทะเบียนบริษัทภูเก็ต จำเป็นต้องมีอีเมล์แอดเดรส และเบอร์โทรศัพท์ของบริษัท (ในกรณีที่ไม่มีเบอร์บ้าน สามารถใช้เบอร์มือถือแทนได้) ส่วนเว็บไซต์ของบริษัทที่จะจดทะเบียน ถ้าผู้ประกอบการมีเว็บไซต์ก็แจ้ง URL ของ เว็บไซต์ ยกตัวอย่างเช่น www.greenprokspregister.com แต่ถ้าผู้ประกอบการไม่มีเว็บไซต์ ก็ไม่เป็นไรกฏหมายไม่ได้บังคับว่าต้องมี
4. ทุนจดทะเบียนบริษัทภูเก็ต
ทุนจดทะเบียนก็คือทุนของกิจการที่จะจดทะเบียนบริษัทมาเพื่อดำเนินธุรกิจ โดยผู้ประกอบการต้องประมาณการว่าในการดำเนินธุรกิจที่จะจดทะเบียนบริษัทจำกัดขึ้นมานั้นต้องการใช้เงินทุนเท่าไร ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการที่จดทะเบียนบริษัท จะจดทะเบียนบริษัทที่ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อต้องการความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทตนเอง
5. เรียกชำระทุนครั้งแรก
ในตอนจดทะเบียนบริษัทต้องกำหนดทุนที่จะชำระครั้งแรก กฏหมายกำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 25% หรือผู้ประกอบการจะชำระมากกว่า 25% หรือ 100% ก็ได้ ทีนี้ผู้ประกอบการอาจสงสัยการชำระทุนคืออะไร ยกตัวอย่างเช่นผู้ประกอบการกำหนดทุนจดทะเบียนของบริษัทที่ 1 ล้านบาท ถ้าผู้ประกอบการระบุว่าต้องการชำระทุนที่ 25% เพราะฉะนั้น 25% ของทุนจดทะเบียนก็คือ 250,000 บาท ดังนั้นเมื่อจัดตั้งบริษัทจำกัดขึ้นมาแล้ว ผู้ประกอบการต้องไปเปิดบัญชีธนาคารของบริษัท และนำเงินทุนฝากเข้าบัญชีธนาคารของบริษัท
โดยเงินทุนในบัญชีธนาคารนี้คือทุนที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทสามารถเบิกถอนมาเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการบริษัทที่จดทะเบียนได้ ยกตัวอย่างเช่น ค่าเช่าออฟฟิศ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เงินดือน พนักงาน ค่าซื้อสินค้าเพื่อจำหน่าย หรือแม้กระทั่งค่าเดินทางในธุรกิจของบริษัท โดยค่าใช้จ่ายบริษัทต่างนั้นนี้ต้องมีใบเสร็จเป็นชื่อบริษัทมาใช้เป็นหลักฐานในการบันทึกบัญชี เมื่อมีการจ่ายค่าใช้จ่ายออกไป
6. ข้อมูลของผู้ก่อการอย่างน้อย 3 ท่าน
ในการจดทะเบียนบริษัทภูเก็ต กฏหมายกำหนดไว้ว่าต้องมีผู้ก่อการนั่นก็คือผู้ถือหุ้นของบริษัทอย่างน้อย 3 คนจึงจะจดทะเบียนบริษัทได้ ซึ่งข้อมูลของผู้ก่อการหรือผู้ถือหุ้นของบริษัท จะประกอบไปด้วย
– ชี่อ-นามสกุลของผู้ถือหุ้น
– อาชีพของผู้ถือหุ้น
– เบอร์โทรของผู้ถือหุ้น
– จำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละคนถือในบริษัท
7. รายชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงนามบริษัท
ในการจดทะเบียนบริษัทจำกัด กฏหมายกำหนดไว้ว่าต้องมีกรรมการอย่างน้อย 1 ท่าน นั่นคือจะมี 1 ท่าน หรือ 2 ท่าน หรือ 3 ท่าน หรือมากกว่าก็ได้ ซึ่งกรรมการจะเป็นตัวแทนในการบริหารกิจการของบริษัท และมีอำนาจในการลงนามในธุรกรรมซึ่งมีผลผูกพันทางกฏหมายกับบริษัทที่จะจดทะเบียนจัดตั้ง
เมื่อกล่าวถึงกรรมการแล้วทีนี้เราจะมากล่าวถึงเงื่อนไขการลงนามของกรรมการ ในการจดทะเบียนบริษัทจำกัด ผู้ประกอบการสามารถกำหนดเงื่อนไขการลงนามกรรมการได้หลายรูปแบบ ตามที่ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่จะจดทะเบียนตกลงกัน
8. วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบริษัท
ผู้ประกอบการต้องคิดว่าจุดประสงค์ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทภูเก็ตนี้ มีจุดประสงค์เพื่อทำธุรกิจอะไร ผู้ประกอบการก็สามารถเขียนวัตถุประสงค์ที่ต้องการทำได้เลย โดยบริษัทที่จะจดทะเบียนสามารถดำเนินธุรกิจได้หลายวัตถุประสงค์ เบื้องต้นทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้านั้นมีวัตถุประสงค์มาตรฐานอยู่แล้ว คือ แบบ ว.1 เป็นธุรกิจ พาณิชยกรรม แบบ ว.2 เป็นธุรกิจบริการ ซึ่งทางบริษัทรับจดทะเบียนจะเลือกแบบวัตถุประสงค์มาตรฐานที่ตรงกับธุรกิจลูกค้ามากที่สุด แต่ถ้าผู้ประกอบการทำด้วยตัวเองต้องอ่าน แบบ ว. เพื่อเลือกอีกที
พื้นที่ในภูเก็ต
กมลา, กะทู้, ป่าตอง, ถลาง, ป่าคลอก, ศรีสุนทร, สาคู, เชิงทะเล, เทพกระษัตรี, ไม้ขาว, กะรน, ฉลอง, ตลาดเหนือ, ตลาดใหญ่, รัษฎา, ราไวย์, วิชิต, เกาะแก้ว